Git LFS (Large File Storage)

Git LFS (Large File Storage) เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับนักพัฒนาที่ต้องการจัดการไฟล์ขนาดใหญ่หรือไฟล์ไบนารีใน Git repository ของพวกเขา โดย Git LFS ช่วยให้การจัดเก็บและการทำงานกับไฟล์เหล่านี้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจาก Git ถูกออกแบบมาเพื่อจัดการกับไฟล์ข้อความและการเปลี่ยนแปลงในไฟล์เหล่านั้น การจัดเก็บไฟล์ขนาดใหญ่หรือไฟล์ไบนารีอาจทำให้ประสิทธิภาพของ Git ลดลง

คุณสมบัติของ Git LFS

  1. การจัดเก็บไฟล์ขนาดใหญ่: Git LFS ช่วยให้คุณสามารถจัดเก็บไฟล์ขนาดใหญ่ในที่เก็บข้อมูลภายนอก โดยใน repository จะเก็บเพียง pointer ไปยังไฟล์เหล่านั้น ทำให้ repository มีขนาดเล็กลง

  2. การติดตามไฟล์ไบนารี: คุณสามารถใช้ Git LFS เพื่อติดตามไฟล์ไบนารี เช่น รูปภาพ วิดีโอ หรือไฟล์ที่ไม่สามารถ diff ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  3. การทำงานร่วมกับ Git: Git LFS ทำงานร่วมกับคำสั่ง Git ปกติ เช่น git clone, git pull, และ git push โดยอัตโนมัติ

วิธีการใช้งาน Git LFS

ส่วนที่ 1: การติดตั้งและเริ่มต้นใช้งาน

  1. ติดตั้ง Git LFS: เริ่มต้นด้วยการติดตั้ง Git LFS บนเครื่องของคุณ โดยใช้คำสั่งแพ็คเกจจัดการของระบบปฏิบัติการที่คุณใช้งาน ตัวอย่างเช่น:

    • สำหรับ macOS: ใช้คำสั่ง brew install git-lfs

    • สำหรับ Ubuntu: ใช้คำสั่ง sudo apt-get install git-lfs

  2. เริ่มต้นใช้งานใน repository: หลังจากติดตั้ง Git LFS แล้ว ให้เข้าไปที่โฟลเดอร์โปรเจกต์ของคุณและรันคำสั่ง

     git lfs install
    

    คำสั่งนี้จะเตรียม repository ของคุณให้พร้อมสำหรับการใช้งาน Git LFS

ส่วนที่ 2: การติดตามและจัดการไฟล์

  1. ติดตามไฟล์: สมมติว่าคุณมีไฟล์รูปภาพชื่อ large-image.png ที่ต้องการติดตามด้วย Git LFS ให้ใช้คำสั่ง

     git lfs track "large-image.png"
    

    คำสั่งนี้จะสร้างไฟล์ .gitattributes ที่ระบุว่าไฟล์ large-image.png ควรถูกจัดการโดย Git LFS

  2. เพิ่มและส่งไฟล์ไปยัง repository: เพิ่มไฟล์ลงใน staging area และ commit การเปลี่ยนแปลง

     git add .gitattributes large-image.png
     git commit -m "Add large image with Git LFS"
    

    จากนั้นส่งไฟล์ไปยัง remote repository

     git push origin main
    

ข้อดีของการใช้ Git LFS

  • ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น: ลดขนาดของ repository และปรับปรุงความเร็วในการ clone และ pull

  • การจัดการไฟล์ไบนารีที่ดีขึ้น: ทำให้การทำงานกับไฟล์ไบนารีใน Git เป็นไปได้อย่างราบรื่น

Git LFS เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับนักพัฒนาที่ต้องจัดการกับไฟล์ขนาดใหญ่หรือไฟล์ไบนารีในโครงการของพวกเขา ช่วยให้การทำงานกับ Git มีประสิทธิภาพมากขึ้นและลดปัญหาที่อาจเกิดจากการจัดการไฟล์ขนาดใหญ่ใน repository ปกติ

ได้ครับ คุณสามารถอัพโหลดไฟล์ .mp4 ขนาด 500MB โดยใช้ Git LFS ได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้:

  1. ติดตั้ง Git LFS: หากยังไม่ได้ติดตั้ง Git LFS บนเครื่องของคุณ ให้ทำการติดตั้งก่อน โดยใช้คำสั่งที่เหมาะสมกับระบบปฏิบัติการของคุณ เช่น brew install git-lfs สำหรับ macOS หรือ sudo apt-get install git-lfs สำหรับ Ubuntu

  2. เริ่มต้นใช้งาน Git LFS ใน repository: เข้าไปที่โฟลเดอร์โปรเจกต์ของคุณและรันคำสั่ง

     git lfs install
    
  3. ติดตามไฟล์ .mp4 ขนาดใหญ่: ใช้คำสั่งต่อไปนี้เพื่อติดตามไฟล์ .mp4 ที่คุณต้องการอัพโหลด ตัวอย่างเช่น ไฟล์ video-file.mp4 ขนาด 500MB

     git lfs track "*.mp4"
    

    คำสั่งนี้จะเพิ่มไฟล์ .gitattributes ที่ระบุว่าไฟล์นามสกุล .mp4 ควรถูกจัดการโดย Git LFS

  4. เพิ่มไฟล์ลงใน staging area: ใช้คำสั่ง

     git add .gitattributes video-file.mp4
    
  5. Commit การเปลี่ยนแปลง: บันทึกการเปลี่ยนแปลงใน repository ของคุณด้วยคำสั่ง

     git commit -m "Add video file with Git LFS"
    
  6. Push ไฟล์ไปยัง remote repository: ส่งไฟล์ไปยัง remote repository ด้วยคำสั่ง

     git push origin main
    

เมื่อทำตามขั้นตอนเหล่านี้ ไฟล์ video-file.mp4 ขนาด 500MB จะถูกอัพโหลดไปยังที่เก็บข้อมูลของ Git LFS และใน repository จะมีเพียง pointer ไปยังไฟล์นั้น ทำให้การจัดการไฟล์ขนาดใหญ่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

Did you find this article valuable?

Support i-studio by becoming a sponsor. Any amount is appreciated!