Git LFS (Large File Storage)
Git LFS (Large File Storage) เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับนักพัฒนาที่ต้องการจัดการไฟล์ขนาดใหญ่หรือไฟล์ไบนารีใน Git repository ของพวกเขา โดย Git LFS ช่วยให้การจัดเก็บและการทำงานกับไฟล์เหล่านี้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจาก Git ถูกออกแบบมาเพื่อจัดการกับไฟล์ข้อความและการเปลี่ยนแปลงในไฟล์เหล่านั้น การจัดเก็บไฟล์ขนาดใหญ่หรือไฟล์ไบนารีอาจทำให้ประสิทธิภาพของ Git ลดลง
คุณสมบัติของ Git LFS
การจัดเก็บไฟล์ขนาดใหญ่: Git LFS ช่วยให้คุณสามารถจัดเก็บไฟล์ขนาดใหญ่ในที่เก็บข้อมูลภายนอก โดยใน repository จะเก็บเพียง pointer ไปยังไฟล์เหล่านั้น ทำให้ repository มีขนาดเล็กลง
การติดตามไฟล์ไบนารี: คุณสามารถใช้ Git LFS เพื่อติดตามไฟล์ไบนารี เช่น รูปภาพ วิดีโอ หรือไฟล์ที่ไม่สามารถ diff ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การทำงานร่วมกับ Git: Git LFS ทำงานร่วมกับคำสั่ง Git ปกติ เช่น
git clone
,git pull
, และgit push
โดยอัตโนมัติ
วิธีการใช้งาน Git LFS
ส่วนที่ 1: การติดตั้งและเริ่มต้นใช้งาน
ติดตั้ง Git LFS: เริ่มต้นด้วยการติดตั้ง Git LFS บนเครื่องของคุณ โดยใช้คำสั่งแพ็คเกจจัดการของระบบปฏิบัติการที่คุณใช้งาน ตัวอย่างเช่น:
สำหรับ macOS: ใช้คำสั่ง
brew install git-lfs
สำหรับ Ubuntu: ใช้คำสั่ง
sudo apt-get install git-lfs
เริ่มต้นใช้งานใน repository: หลังจากติดตั้ง Git LFS แล้ว ให้เข้าไปที่โฟลเดอร์โปรเจกต์ของคุณและรันคำสั่ง
git lfs install
คำสั่งนี้จะเตรียม repository ของคุณให้พร้อมสำหรับการใช้งาน Git LFS
ส่วนที่ 2: การติดตามและจัดการไฟล์
ติดตามไฟล์: สมมติว่าคุณมีไฟล์รูปภาพชื่อ
large-image.png
ที่ต้องการติดตามด้วย Git LFS ให้ใช้คำสั่งgit lfs track "large-image.png"
คำสั่งนี้จะสร้างไฟล์
.gitattributes
ที่ระบุว่าไฟล์large-image.png
ควรถูกจัดการโดย Git LFSเพิ่มและส่งไฟล์ไปยัง repository: เพิ่มไฟล์ลงใน staging area และ commit การเปลี่ยนแปลง
git add .gitattributes large-image.png git commit -m "Add large image with Git LFS"
จากนั้นส่งไฟล์ไปยัง remote repository
git push origin main
ข้อดีของการใช้ Git LFS
ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น: ลดขนาดของ repository และปรับปรุงความเร็วในการ clone และ pull
การจัดการไฟล์ไบนารีที่ดีขึ้น: ทำให้การทำงานกับไฟล์ไบนารีใน Git เป็นไปได้อย่างราบรื่น
Git LFS เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับนักพัฒนาที่ต้องจัดการกับไฟล์ขนาดใหญ่หรือไฟล์ไบนารีในโครงการของพวกเขา ช่วยให้การทำงานกับ Git มีประสิทธิภาพมากขึ้นและลดปัญหาที่อาจเกิดจากการจัดการไฟล์ขนาดใหญ่ใน repository ปกติ
ได้ครับ คุณสามารถอัพโหลดไฟล์ .mp4 ขนาด 500MB โดยใช้ Git LFS ได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้:
ติดตั้ง Git LFS: หากยังไม่ได้ติดตั้ง Git LFS บนเครื่องของคุณ ให้ทำการติดตั้งก่อน โดยใช้คำสั่งที่เหมาะสมกับระบบปฏิบัติการของคุณ เช่น
brew install git-lfs
สำหรับ macOS หรือsudo apt-get install git-lfs
สำหรับ Ubuntuเริ่มต้นใช้งาน Git LFS ใน repository: เข้าไปที่โฟลเดอร์โปรเจกต์ของคุณและรันคำสั่ง
git lfs install
ติดตามไฟล์ .mp4 ขนาดใหญ่: ใช้คำสั่งต่อไปนี้เพื่อติดตามไฟล์ .mp4 ที่คุณต้องการอัพโหลด ตัวอย่างเช่น ไฟล์
video-file.mp
4
ขนาด 500MBgit lfs track "*.mp4"
คำสั่งนี้จะเพิ่มไฟล์
.gitattributes
ที่ระบุว่าไฟล์นามสกุล .mp4 ควรถูกจัดการโดย Git LFSเพิ่มไฟล์ลงใน staging area: ใช้คำสั่ง
git add .gitattributes video-file.mp4
Commit การเปลี่ยนแปลง: บันทึกการเปลี่ยนแปลงใน repository ของคุณด้วยคำสั่ง
git commit -m "Add video file with Git LFS"
Push ไฟล์ไปยัง remote repository: ส่งไฟล์ไปยัง remote repository ด้วยคำสั่ง
git push origin main
เมื่อทำตามขั้นตอนเหล่านี้ ไฟล์ video-file.mp
4
ขนาด 500MB จะถูกอัพโหลดไปยังที่เก็บข้อมูลของ Git LFS และใน repository จะมีเพียง pointer ไปยังไฟล์นั้น ทำให้การจัดการไฟล์ขนาดใหญ่มีประสิทธิภาพมากขึ้น